วันอาทิตย์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เเบบฝึกหัด โทรคมนาคมเพื่อการศึกษา

1. โทรคมนาคม หมายถึงอะไร และมีประโยชน์ทางการศึกษาอะไรบ้าง
โทรคมนาคม คือ การขยายขอบเขตของการสื่อสารให้มีผลในระยะไกล ในทางปฏิบัติแล้ว เรายอมรับว่าเมื่อมีการขยายขอบเขตดังกล่าวแล้ว อะไรบางอย่างอาจต้องมีการสูญเสียไป ดังนั้นคำว่า โทรคมนาคม นั้น จะรวมถึงรูปแบบทั้งหมดของการสื่อสารดั้งเดิม ที่มีการดัดแปลงหรือปรับปรุงให้สามารถสื่อสารได้ระยะไกล ซึ่งรวมถึง วิทยุ โทรเลข โทรทัศน์ โทรศัพท์ การสื่อสารข้อมูล และเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ประโยชน์ทางการศึกษา สามารถส่งสารสนเทศในรูปแบบของตัวอักษร ภาพ เสียงโดยใช้กระบวนการที่หลากหลาย เช่น คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า พลังงานไฟฟ้า หรือเคเบิลใยแก้วนำแสง ดาวเทียม เป็นต้น ไปยังผู้รับสารที่ต้องการเรียนรู้หรือการจัดการศึกษาในรูปแบบต่าง ๆ
2. การใช้ Facebook เป็นโทรคมนาคมเพื่อการศึกษาหรือไม่ ถ้าเป็นจงยกตัวอย่าง

ประโยชน์ของ Facebook
การใช้ facebook จัดเป็นโทรคมนาคมเพื่อการศึกษา เพราะ facebook สามารถเผยแพร่ข่าวสาร ความรู้ และเรื่องราวต่างๆ ได้ทั้งในรูปแบบของตัวอักษร รูปภาพ และวีดิโอ ทั้งนี้ยังสามารถเผยแพร่ได้อย่างรวดเร็วเนื่องจากในปัจจุบัน ผู้คนทุกเพศทุกวัยนิยมใช้ facebook กันเป็นจำนวนมาก
ประโยชน์ของ facebook

1.Facebook ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการติดต่อสื่อสารภายในกลุ่มเพราะสามารถสร้างกลุ่มพูดคุยกันได้ ทั้งนี้ยังสามารถตั้งเป็นกลุ่มปิดเพื่อการพูดคุยเฉพาะสมาชิก
 
2. Facebook ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพราะสามารถใช้ติดต่อกันได้ระหว่างบุคคล หรือกลุ่มบุคคล ที่อยู่ห่างไกลกัน
3. Facebook สามารถส่งสารสนเทศในรูปแบบต่างๆได้ทั้ง ตัวอักษร รูปภาพ และวีดิโอ
4. Facebook เป็นแหล่งนำเสนอข้อมูลที่มีผู้รับชมมาก สามารถใช้เป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์ข่าวสารต่างๆได้ เช่น ขอรับความช่วยเหลือด่วน
5.Facebook ทำให้บุคคลสามารถติดต่อสื่อสารกันได้หลายช่องทางทั้งการโพสต์ข้อความ รูปภาพ หรือวิดีโอบนกระดาน การแชท และการใช้วีดิโอคอล
3. นิสิตสามารถรับชมโทรทัศน์ทางไกลผ่านดาวเทียมได้ด้วยวิธีทางใดบ้าง
ระบบ DSTV เป็นระบบโทรทัศน์ผ่านจานรับสัญญาณดาวเทียม ในย่านความถี่ KU-Band ที่เป็นระบบเดียวกับ ทรูวิชั่นส์ ซึ่งสามารถซื้อ ชุดรับสัญญาณดาวเทียม กับตัวแทนจำหน่ายของ ทรูวิชั่นส์ ได้ทั่วไป โดยไม่เสียค่าบริการรายเดือน โดยมีราคาประมาณชุดละ 12,000 บาท หรือหากมีเครื่องรับสัญญาณดาวเทียม ที่สามารถรับย่าน KU-Band ได้ ก็สามารถรับชมได้ เพราะระบบออกอากาศของสถานีฯ มิได้มีการเข้ารหัสไว้ จึงไม่ต้องใช้ Smart Card ในการรับชมรายการ
ระบบ CATV เป็นระบบโทรทัศน์ผ่านสายเคเบิล ซี่งสามารถรับชมได้ ในเขตกรุงเทพมหานคร และจังหวัดปริมณฑล แต่สามารถรับชมรายการได้เพียง 7 ช่อง และต้องเสียค่าบริการรายเดือน กับบริษัทเคเบิลทีวีที่ให้บริการ สามารถใช้ประโยชน์จากการเรียนการสอนทางไกลผ่านดาวเทียม โดยวิธีการศึกษาผ่านระบบอินเทอร์เน็ตได้อีกทางหนึ่ง โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในด้านเนื้อหาวิชา (Free-of-charge Web-based Information Content) ทั้งในระบบรายการถ่ายทอดสด (Live Broadcast) และระบบรายการตามคำสั่ง (On Demand) ทางเว็บไซต์ของ มูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม และ สถานีวิทยุโทรทัศน์การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม
4. ประโยชน์ของโทรทัศน์ทางไกลผ่านดาวเทียมมีอะไรบ้าง จงอธิบาย
ประโยชน์ ของโทรทัศน์ทางไกลผ่านดาวเทียม คือ เป็นการศึกษาที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายในด้านเนื้อหาวิชา (Free-Of-Charge Web-Based Information Content) ทั้งในระบบรายการถ่ายทอดสด (Live Broadcast) และระบบรายการตามคำสั่ง (On Demand) ทางเว็บไซต์ของ มูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม และ สถานีวิทยุโทรทัศน์การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม เป็นต้น
5. นิสิตรับชมรายการจาก
 http://www.youtube.com/watch?v=OvUsY7oTEQc และจงอธิบายถึงประวัติความเป็นมาของสถานีโทรทัศน์ทางไกลผ่านดาวเทียม ไทยคม
สัญญาดาวเทียมไทยคมจากโรงเรียนวังไกลกังวล (หัวหิน) ประจวบคีรีขันธ์ ไปถึงทุกโรงเรียนทั่วประเทศเกิดขึ้นเพื่อสนองพระราชดำริ เพื่อการศึกษามีคุณภาพเท่าเทียมกันทั้งประเทศ และแก้ปัญหา ครูขาดแคลน เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2538 เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี นอกจากนี้ ครูโรงเรียนไกลกังวนได้ศึกษานอกสถานที่เพื่อถ่ายทอดเป็นความรู้ รายการและได้รับพระราชทานชื่อรายการว่า ศึกษาทัศน์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยังทรงได้สอนเรื่องดินและฝนหลวงในรายการศึกษาทัศน์นี้

6. ให้นิสิต Post รูปภาพเกี่ยวกับโทรคมนาคมเพื่อการศึกษาลงใน Weblog
 




 
 

เเบบฝึกหัด โทรคมนาคมเพื่อการศึกษา

1. สื่อมวลชนเพื่อการศึกษามีกี่ประเภทอะไรบ้าง
สื่อมวลชนจำแนกออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ คือ สื่อสิ่งพิมพ์ และสื่อระบบไฟฟ้า สื่อสองประเภทนี้สามารถนำมาใช้ในการศึกษาทั้งในระบบและนอกโรงเรียนได้ทั้งสิ้น สื่อแต่ละประเภทที่นำมาใช้ในการศึกษา ดังนี้
1. สิ่งพิมพ์
2. วิทยุ
3. โทรทัศน์และวีดิทัศน์
4. ภาพยนตร์
5. สื่อประสม

        2. คุณค่าของสื่อมวลชนเพื่อการศึกษามีอะไรบ้าง จงอธิบาย
เปรียบเสมือนครู ที่ให้การศึกษาแก่ประชาชน ให้ทั้งความรู้ทางวิชาการใหม่ๆ  ซึ่งถือได้ว่ามีความเป็นจริงอย่างมากในสังคมปัจจุบัน เนื่องจากสื่อมวลชนต่างๆ ได้แสดงบทบาทหน้าที่ทางด้านการศึกษา
        3. ให้นิสิตยกตัวอย่างสื่อมวลชนเพื่อการศึกษามา 1 รายการ พร้อมอธิบายประโยชน์ของรายการนั้น


เป็นรายการที่ให้ความรู้ทางด้านต่างๆโดยการจัดทำเป็นตอนต่างๆเพื่อนดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้เป็นอย่างดี สามารถนำความรุ้ที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม โดยการศึกษาลงพื้นที่หาความรุ้แล้วนำเนอผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ผ่านทางสื่อมวลชนจนไได้รับรางวัลอย่างมากมายในด้านการศึกษา
http://www.tvburabha.com/tvb/home/program.asp

วันศุกร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

การใช้สำนักหอสมุด


การให้บริการของสำนักหอสมุด

1. เป็นสมาชิกห้องสมุดการสมัครเป็นสมำชิกห้องสมุด ให้นิสิตนำบัตรประจำตัวนิสิตไปติดต่อเจ้าหน้าที่
ที่เคาน์เตอร์บริการยืม-คืน ชั้น ๒ เพื่อบันทึกข้อมูลลงในฐานข้อมูลสมาชิกห้องสมุด

2. การใช้บัตรประจำตัวนิสิต
นิสิตจะต้องแสดงบัตรประจำตัวนิสิตของตนเองทุกครั้งที่ใช้บริการของสำนักหอสมุด
ในกรณีที่นิสิตทำบัตรประจำตัวนิสิตหาย ให้แจ้งสำนักหอสมุดทราบทันที หำกมีผู้นำบัตรดังกล่าว
ไปใช้ เจ้าของบัตรนั้นต้องรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นอันเนื่องมาจากการใช้บัตรนั้น
ในระหว่างที่ยังไม่ได้แจ้งการสูญหายให้สำนักหอสมุดทราบ

3. การเข้าใช้บริการของสำนักหอสมุด
ให้นิสิตสแกนบัตรประจำตัวนิสิตของตนเองทุกครั้งที่เข้ำใช้บริการและสามารถ
ฝากสิ่งของไว้ที่ห้องรับฝากของ

4. บริการตู้รับฝากของ
นิสิตที่เข้าใช้บริการห้องสมุดสามารถฝากสิ่งของไว้ในตู้รับฝากของก่อนเข้าใช้บริการ
ห้องสมุดได้ ไม่เกิน 1 วัน โดยจะต้องนำของออกจากตู้รับฝากของก่อนเวลาปิดบริการ
ในเวลา 22.00 น.

5. บริการการยืม – คืนวัสดุห้องสมุด
สำนักหอสมุด ให้บริการยืม-คืนวัสดุห้องสมุดทางระบบคอมพิวเตอร์ การยืม-คืนวัสดุ
ห้องสมุดนิสิตจะต้องนำบัตรประจำตัวนิสิต พร้อมวัสดุห้องสมุดที่นำมายืมหรือนำมาคืน ยื่นให้
เจ้ำหน้ำที่ นิสิตสามารถยืมต่อด้วยตนเองได้ 1 ครั้ง ใน Web OPAC (ไอคอนสมำชิก) โดยดำเนินการ
ภายในวันกำหนดส่ง สามารถจองสื่อที่มีสถานะถูกยืม ตรวจสอบรายการยืม
ประวัติการยืม-คืน
และข้อมูลค่าปรับ ได้ด้วยตนเอง
* เฉพาะเจ้าของบัตรประจำตัวนิสิตเท่านั้น ที่มีสิทธิใช้บัตรฯ ในการยืม *

6. บริการรับคืนหนังสือที่ตู้รับคืนหนังสือ
สำนักหอสมุดจัดตู้รับคืนหนังสือ/ สื่อโสตทัศน์ ณ บริเวณใกล้ประตูทางเข้ำชั้น ๑ ทั้ง ๒ ด้ำน
ผู้ใช้บริการที่ต้องการคืนหนังสือ/ สื่อโสตทัศน์ สามารถคืนหนังสือ/ สื่อโสตทัศน์ที่
ตู้รับคืน ฯ เจ้าหน้าที่จะดำเนินการจัดเก็บหนังสือทุกวันเวลา 08.00 น., 11.00 น., 14.00 น. และ 16.00 น. และ



จัดเก็บสื่อโสตทัศน์ในเวลา 08.00 น. และ 16.30 น.

7. บริการตอบคำถามและช่วยการค้นคว้า
เป็นบริการที่จัดขึ้นเพื่อช่วยให้ผู้ใช้บริการได้รับสารสนเทศที่ต้องการจากสื่อสิ่งพิมพ์
สื่อโสตทัศน์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่มีบริการในสำนักหอสมุดและหน่วยงานอื่น ตลอดจนจาก
แหล่งสารสนเทศต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย ให้บริการ ณ เคาน์เตอร์บริการ
ตอบคำถาม ชั้น 2 และชั้น 5

8. บริการสืบค้นฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
ให้บริการสารสนเทศสำหรับการศึกษาวิจัยซึ่งให้ข้อมูลที่เป็นบรรณานุกรมสำระสังเขป
หรือฉบับเต็ม (Full-text) ของหนังสือ บทความวารสาร วิทยานิพนธ์ในสาขาวิชาต่าง ๆ ในรูปแบบ
ฐานข้อมูลออนไลน์ (Online database) วารสารอิเล็กทรอนิกส์ (e-journal) หนังสืออิเล็กทรอนิกส์
(e-book) และฐานข้อมูลดิจิทัลของเอกสารทำงานวิชาการต่าง ๆ โดยสืบค้นผ่านเว็บไซต์ของ
สำนักหอสมุดทางเครือข่ำยอินเทอร์เน็ต

9. อบรมการสืบค้นสารสนเทศและการใช้ห้องสมุด
เป็นบริการที่แนะนำเทคนิควิธีการสืบค้นสารสนเทศแก่ผู้ใช้บริการให้สามารถค้นคว้า
สารสนเทศจากฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ในสาขาวิชาต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถติดต่อขอ


ใช้บริกรโดยนัดหมายเวลาตามที่ต้องการได้
สอบถามเพิ่มเติมที่ โทร 0-3810-2475

10. ห้องศึกษาค้นคว้ากลุ่ม
ให้บริการห้องศึกษาค้นคว้าเป็นกลุ่มแก่นิสิตและสมาชิกของห้องสมุด โดยผู้ที่ต้องการใช้
ห้องศึกษาค้นคว้ากลุ่มสามารถติดต่อขอใช้บริการได้ที่เคาน์เตอร์บริการชั้น 5 โดยใช้บริการ
ได้ครั้งละ 3 ชั่วโมง และจำนวนผู้ใช้บริการอย่างน้อยห้องละ 3 คน
__________________________________________________________________


การให้บริการ

สำนักหอสมุด ให้บริการสารสนเทศประเภทสื่อสิ่งพิมพ์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยมีบริการต่างๆดังนี้

ชั้น 2
- สมัครสมาชิกห้องสมุด
- ยืม-คืน หนังสือและวิทยานิพนธ์
- สืบค้นจากฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
- ตอบคำถามและช่วยการค้นคว้า
- หนังสือภาาาต่างประเทศ หนังสือ SET Corner
- มุมต่อต้านการค้ามนุษย์ มุมคุณธรรม

ชั้น 3
- หนังสือภาษาไทย นวนิยาย เรื่องสั้น หนังสือเด็ก
- ถ่ายเอกสาร

ชั้น 4
- วารสาร หนังสือพิมพ์ จดหมายข่าว
- สืบค้นวารสารอิเล็กทรอนิกส์
- ถ่ายเอกสาร

ชั้น 5
- ยืมหนังสือ วิทยานิพนธ์
- ฝึกอบรมและแนะนำการใช้ห้องสมุด
- สืบค้นข้อมูลฐานอิเล็กทรอนิกส์
- ตอบคำถามและช่วยการค้นคว้า
- วิทยานิพนธ์ หนังสืออ้างอิง หนังสือหายาก
- หนังสือราชกิจจานุเบกษา สารสนเทศภาคตะวันออก
- จุลสาร กฤตภาค
- ถ่ายเอกสาร

ชั้น 6
- ยืม-คืน สื่ออิเล็กทรอนิกส์/สื่อโสตทัศน์
- ชุดศึกษาเทปวีดีทัศน์ วีซีดี ซีดีรอม มัลติมีเดีย เทปเสียง และรายการโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม/UBC
- อินเตอร์เน็ต และ ห้องโฮมเธียเตอร์

ชั้น 7
- หนังสือพระราชนิพนธ์ในสมเด้จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
- หนังสือภาษาไทย พิมพ์ก่อน พ.ศ. 2526
- หนังสือภาษาต่างประเทศ พิมพ์ก่อน ค.ศ. 1970

วันจันทร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ศึกษานอกสถานที่ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำบางแสน สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำบางแสน สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา




                     วันนี้ได้ไปเรียนนอกห้องเรียนที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำบางแสน สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล


 มหาวิทยาลัยบูรพา ในภาควิชาเทคโนโลยีการศึกษา เป็นการเรียนที่น่าสนใจมากเพื่อหาความรู้เกี่ยวกับ


สัตว์น้ำชนิด สายพันธุ์ต่างๆในท้องทะเล และวันนี้ได้รับความรู้หลายอย่างเช่น


- ได้ทราบถึงชนิดของปลาวาฬ
- ได้ทราบถึงชนิดของปลาเศรษฐกิจ
- ได้ทราบถึงชนิดของหอย
- ได้ทราบถึงชนิดของเต่า
- ได้ทราบว่าน้ำที่ใช้มาจัดแสดงสัตว์นั้นมาจากแสมสาร
- ได้เรียนรู้การใช้ชีวิตของสัตว์น้ำประเภทต่างๆ
- ได้ความรู้เกี่ยวกับลักษณ์จำเพาะของสัตว์น้ำชนิดต่างๆ



ซักรูปครับผม^^



หมึกสายครับผม เห็นมั้ยเอ๋ยยยย???


ปะการังธรรมดาเนี่ยล่ะครับแต่สวยเลยเก็บไว้ซักรูป^^

ปลาการ์ตูน

หอยนอร์ติรุส O..o





5555+


วิทยากรสุดหล่อ กับ อาจารย์ว่าที่เรือตรี อุทิศ  บำรุงชีพ

วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2555

แบบฝึกหัด เรื่องหลักทฤษฎีการสื่อสารกับเทคโนโลยีการศึกษา


1.ประเภทของสื่อเทคโนโลยีการศึกษาที่แบ่งตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ได้กี่ประเภทอะไรบ้าง
ตอบ    4 ประเภท ได้แก่
                        1. สื่อโสตทัศน์
                        2. สื่อมวลชน
                        3. สื่ออิเล็กทอนิกส์ โทรคมนาคม รวมคอมพิววเตอร์
                        4. สื่อที่เป็นแหล่งวิทยาการ

            2. ประเภทของสื่อเทคโนโลยีการศึกษาที่แบ่งตามลักษณะทั่วไปได้กี่ประเภท อะไรบ้าง จงหาภาพมาประกอบ

ตอบ     3 ประเภท ได้แก่
                        1. สื่อสารประเภทใช้เครื่องฉาย (
Projected aids)
                        2. สื่อสารประเภทไม่ใช้เครื่องฉาย (
Nomprojected aids)
                        3. สื่อสารประเภทเครื่องเสียง (
Audio aids)

            3. ประเภทของเทคโนโลยีการศึกษาที่แบ่งตามประสบการณ์ เป็นของนักการศึกษาท่านใด และมีการจัดประสบการณ์จากนามธรรมไปสู่รูปธรรมโดยเริ่มต้นจากประสบการณ์ใดไปประสบการณ์ใดจงอธิบาย

ตอบ เอดการ์ เดล (Edgar Dale) ได้จัดแบ่งสื่อการสอนเพื่อเป็นแนวทางในการอธิบายถึงความสัมพันธ์ระหว่างสื่อโสตทัศนูปกรณ์ต่าง ๆ ในขณะเดียวกันก็เป็นการแสดงขั้นตอนของประสบการณ์การเรียนรู้ และการใช้สื่อแต่ละประเภทในกระบวนการเรียนรู้ด้วย โดยพัฒนาความคิดของ Bruner ซึ่งเป็นนักจิตวิทยา นำมาสร้างเป็น “” (Cone of Experiencess) โดยแบ่งเป็นขั้นตอนดังนี้
1) ประสบการณ์ตรง โดยการให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ตรงจากของจริง เช่น การจับต้อง และการเห็น เป็นต้น
2) ประสบการณ์รอง เป็นการเรียนโดยให้ผู้เรียนเรียนจากสิ่งที่ใกล้เคียงความเป็นจริงที่สุด ซึ่งอาจเป็นการจำลองก็ได้
3) ประสบการณ์นาฏกรรมหรือการแสดง เป็นการแสดงบทบาทสมมติหรือการแสดงละคร เนื่องจากข้อจำกัดด้วยยุคสมัยเวลา และสถานที่ เช่น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ หรือเรื่องราวที่เป็นนามธรรม เป็นต้น
4) การสาธิต เป็นการแสดงหรือการทำเพื่อประกอบคำอธิบายเพื่อให้เห็นลำดับขั้นตอนของการกระทำนั้น


 5) การศึกษานอกสถานที่ เป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์ต่​าง ๆ ภายนอกสถานที่เรียน อาจเป็นการเยี่ยมชมสถานที่ การสัมภาษณ์บุคคลต่าง ๆ เป็นต้น


 6) นิทรรศการ เป็นการจัดแสดงสิ่งของต่าง ๆ เพื่อให้สาระประโยชน์แก่ผู้ชม โดยการนำประสบการณ์หลายอย่างผสม​ผสานกันมากที่สุด


 7) โทรทัศน์ โดยใช้ทั้งโทรทัศน์การศึกษาและโ​ทรทัศน์การสอนเพื่อให้ข้อมูลควา​มรู้แก่ผู้เรียนหรือผู้ชมที่อยู​่ในห้องเรียนหรืออยู่ทางบ้าน


 8) ภาพยนตร์ เป็นภาพที่บันทึกเรื่องราวลงบนฟฟิล์มเพื่อให้ผู้


8) ภาพยนตร์ เป็นภาพที่บันทึกเรื่องราวลงบนฟิล์มเพื่อให้ผู้เรียนได้รับประส​บการณ์ทั้งภาพและเสียงโดยใช้ประ​สาทตาและหู


 9) การบันทึกเสียง วิทยุ ภาพนิ่ง อาจเป็นทั้งในรูปของแผ่นเสียง เทปบันทึกเสียง วิทยุ รูปภาพ สไลด์ ข้อมูลที่อยู่ในขั้นนี้จะให้ประ​สบการณ์แก่ผู้เรียนที่ถึงแม้จะอ​่านหนังสือไม่ออกแต่ก็จะสามารถเ​ข้าใจเนื้อหาได้


 10) ทัศนสัญลักษณ์ เช่น แผนที่ แผนภูมิ หรือเครื่องหมายต่าง ๆที่เป็นสัญลักษณ์แทนสิ่งของต่า​งๆ


 11) วัจนสัญลักษณ์ ได้แก่ตัวหนังสือในภาษาเขียน และเสียงพูดของคนในภาษาพูด


.......... การใช้กรวยประสบการณ์ของเดลจะเร​ิ่มต้นด้วยการให้ผู้เรียนมีส่วน​ร่วมอยู่ในเหตการณ์หรือการกระทำ​จริงเพื่อให้ผู้เรียนมีประสบการ​ณ์ตรงเกิดขึ้นก่อน แล้วจึงเรียนรู้โดยการเฝ้าสังเก​ตในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นขั้นต่อไปของการได้รับป​ระสบ-การณ์รอง ต่อจากนั้นจึงเป็นการเรียนรู้ด้​วยการรับประสบการณ์โดยผ่านสื่อต่างๆ และท้ายที่สุดเป็นการให้ผู้เรีย​นเรียนจากสัญลักษณ์ซึ่งเป็นเสมื​อนตัวแทนของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้​น



4. การสื่อสารหมายถึงอะไร


ตอบ  กระบวนการสำหรับแลกเปลี่ยนสาร รูปแบบอย่างง่ายของสาร คือ จะต้องส่งจากผู้ส่งสารหรืออุปกรณ์เข้ารหัส ไปยังผู้รับสารหรืออุปกรณ์ถอดรหัส อาจอยู่ในรูปแบบของท่าทางสัญลักษณ์ บ้างอย่างอยู่ในรูปแบบของภาษา การสื่อสารเกิดจากความต้องการที่คนจะส่งข้อมูลหากัน การศึกษาเกี่ยวกับการสื่อสารอาจจำแนกได้หลายหมวดหมู่



5. สื่อและเทคโนโลยีการศึกษาเป็นส่วนหนึ่งของการสื่อสารในองค์ประกอบใด จงอธิบาย

ตอบ  สื่อและเทคโนโลยีการศึกษาเป็นส่วนหนึ่งของ สื่อ ในองค์ประกอบของการสื่อสาร เพราะ สื่อและเทคโนโลยีการศึกษา เป็นตัวกลางที่ช่วยถ่ายทอดความรู้จากผู้สอนไปสู่ผู้เรียน
            6. จงเขียนแบบจำลองของการสื่อสารของเดวิดเบอร์โล มาพอเข้าใจ
            ตอบ





7. อุปสรรคของการสื่อสารมีอะไรบ้าง


ตอบ 1.คำพูด (Verbalisn)
                     2. ฝันกลางวัน (
Day Dreaming)

                     3. ข้ออ้างถึงที่ขัดแย้ง (
Referent Confusion)

                     4. การรับรู้ที่จำกัด (
Limited Perception)

                     5. สภาพแวดล้อมทางกายภาพไม่เอื้ออำนวย (
Physical Discomfort)

                     6. การไม่ยอมรับ (
Inperception)


 
8. บทเรียน
e-Learning เป็นส่วนใดขององค์ประกอบของการสื่อสาร


ตอบ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือ สื่อระหว่างบุคคล คือผู้เรียนกับผู้สอน




9. ครูบอยกำลังสอนเนื้อหาวิชาภาษาอังกฤษเรื่อง Grammar ด้วยวีดิทัศน์กับนักเรียนชั้น


มัธยมศึกษาปีที่ 1 จากข้อความดังกล่าวให้นิสิตเขียนแบบจำลองการสื่อสารของเดวิดเบอร์โล


ตอบ





10. การปฐมนิเทศนิสิตใหม่ ณ หอประชุมธำรงบัวศรี เป็นการสื่อสารประเภทใด


ตอบ   การสื่อสารแบบกลุ่มใหญ่



วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ความหมายของนวัตกรรมและเทคโนโลยีการศึกษา

               



    “นวัตกรรม” หมายถึงความคิด การปฏิบัติ หรือสิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยมีใช้มาก่อน หรือเป็นการพัฒนาดัดแปลงมาจากของเดิมที่มีอยู่แล้ว ให้ทันสมัยและใช้ได้ผลดียิ่งขึ้น เมื่อนำ นวัตกรรมมาใช้จะช่วยให้การทำงานนั้นได้ผลดีมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงกว่าเดิม ทั้งยังช่วย ประหยัดเวลาและแรงงานได้ด้วย


                     “นวัตกรรม” (Innovation) มีรากศัพท์มาจาก innovare ในภาษาลาติน แปลว่า ทำสิ่งใหม่ขึ้นมา ความหมายของนวัตกรรมในเชิงเศรษฐศาสตร์คือ การนำแนวความคิดใหม่หรือการใช้ประโยชน์จากสิ่งที่มีอยู่แล้วมาใช้ในรูปแบบใหม่ เพื่อทำให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ หรือก็คือ ”การทำในสิ่งที่แตกต่างจากคนอื่น โดยอาศัยการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ (Change) ที่เกิดขึ้นรอบตัวเราให้กลายมาเป็นโอกาส (Opportunity) และถ่ายทอดไปสู่แนวความคิดใหม่ที่ทำให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและสังคม” แนวความคิดนี้ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดยจะเห็นได้จากแนวคิดของนักเศรษฐอุตสาหกรรม เช่น ผลงานของ Joseph Schumpeter ใน The Theory of Economic Development,1934 โดยจะเน้นไปที่การสร้างสรรค์ การวิจัยและพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อันจะนำไปสู่การได้มาซึ่ง นวัตกรรมทางเทคโนโลยี (Technological Innovation) เพื่อประโยชน์ในเชิงพาณิชย์เป็นหลัก นวัตกรรมยังหมายถึงความสามารถในการเรียนรู้และนำไปปฎิบัติให้เกิดผลได้จริงอีกด้วย


                      “นวัตกรรม” เป็นคำที่ค่อนข้างจะใหม่ในวงการศึกษาของไทย คำนี้ เป็นศัพท์บัญญัติของคณะกรรมการพิจารณาศัพท์วิชาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ มาจากภาษาอังกฤษว่า Innovation มาจากคำกริยาว่า innovate แปลว่า ทำใหม่ เปลี่ยนแปลงให้เกิดสิ่งใหม่ ในภาษาไทยเดิมใช้คำว่า “นวกรรม” ต่อมาพบว่าคำนี้มีความหมายคลาดเคลื่อน จึงเปลี่ยนมาใช้คำว่า นวัตกรรม (อ่านว่า นะ วัด ตะ กำ) หมายถึงการนำสิ่งใหม่ๆ เข้ามาเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมจากวิธีการที่ทำอยู่เดิม เพื่อให้ใช้ได้ผลดียิ่งขึ้น ดังนั้นไม่ว่าวงการหรือกิจการใด ๆ ก็ตาม เมื่อมีการนำเอาความเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ เข้ามาใช้เพื่อปรับปรุงงานให้ดีขึ้นกว่าเดิมก็เรียกได้ว่าเป็นนวัตกรรม ของวงการนั้น ๆ เช่นในวงการศึกษานำเอามาใช้ ก็เรียกว่า “นวัตกรรมการศึกษา” (Educational Innovation) สำหรับผู้ที่กระทำ หรือนำความเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ มาใช้นี้ เรียกว่าเป็น “นวัตกร”




                        นวัตกรรม แบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ
ระยะที่ 1 มีการประดิษฐ์คิดค้น (Innovation) หรือเป็นการปรุงแต่งของเก่าให้เหมาะสมกับกาลสมัย
ระยะที่ 2 พัฒนาการ (Development) มีการทดลองในแหล่งทดลองจัดทำอยู่ในลักษณะของโครงการทดลองปฏิบัติก่อน (Pilot Project)
ระยะที่ 3 การนำเอาไปปฏิบัติในสถานการณ์ทั่วไป ซึ่งจัดว่าเป็นนวัตกรรมขั้นสมบูรณ์


ความหมายของนวัตกรรมการศึกษา


                         “นวัตกรรมการศึกษา (Educational Innovation )” หมายถึง นวัตกรรมที่จะช่วยให้การศึกษา และการเรียนการสอนมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ผู้เรียนสามารถเกิดการเรียนรู้อย่างรวดเร็วมีประสิทธิผลสูงกว่าเดิม เกิดแรงจูงใจในการเรียนด้วยนวัตกรรมการศึกษา และประหยัดเวลาในการเรียนได้อีกด้วย ในปัจจุบันมีการใช้นวัตกรรมการศึกษามากมายหลายอย่าง ซึ่งมีทั้งนวัตกรรมที่ใช้กันอย่างแพร่หลายแล้ว และประเภทที่กำลังเผยแพร่ เช่น การเรียนการสอนที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Aids Instruction) การใช้แผ่นวิดีทัศน์เชิงโต้ตอบ (Interactive Video) สื่อหลายมิติ ( Hypermedia ) และอินเทอร์เน็ต [Internet] เหล่านี้ เป็นต้น


                          “นวัตกรรมทางการศึกษา” (Educational Innovation) หมายถึง การนำเอาสิ่งใหม่ซึ่งอาจจะอยู่ในรูปของความคิดหรือการกระทำ รวมทั้งสิ่งประดิษฐ์ก็ตามเข้ามาใช้ในระบบการศึกษา เพื่อมุ่งหวังที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่มีอยู่เดิมให้ระบบการจัดการศึกษามีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทำให้ผู้เรียนสามารถเกิดการเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วเกิดแรงจูงใจในการเรียน และช่วยให้ประหยัดเวลาในการเรียน เช่น การสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน การใช้วีดิทัศน์เชิงโต้ตอบ(Interactive Video) สื่อหลายมิติ (Hypermedia) และอินเตอร์เน็ต เหล่านี้เป็นต้น


ความหมายของเทคโนโลยี


                            ความเจริญในด้านต่างๆ ที่ปรากฏให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน เป็นผลมาจากการศึกษาค้นคว้าทดลองประดิษฐ์คิดค้นสิ่งต่างๆ โดยอาศัยความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เมื่อศึกษาค้นพบและทดลองใช้ได้ผลแล้ว ก็นำออกเผยแพร่ใช้ในกิจการด้านต่างๆ ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพัฒนาคุณภาพ และประสิทธิภาพในกิจการต่างๆ เหล่านั้น และวิชาการที่ว่าด้วยการนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์ มาใช้ในกิจการด้านต่างๆ จึงเรียกกันว่า “วิทยาศาสตร์ประยุกต์” หรือนิยมเรียกกันทั่วไปว่า “เทคโนโลยี”


                            เทคโนโลยี หมายถึงการใช้เครื่องมือให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในการแก้ปัญหา ผู้ที่นำเอาเทคโนโลยีมาใช้ เรียกว่านักเทคโนโลยี


                            เทคโนโลยีทางการศึกษา (Educational Technology) ตามรูปศัพท์ เทคโน (วิธีการ) + โลยี(วิทยา) หมายถึง ศาสตร์ที่ว่าด้วยวิธีการทางการศึกษา ครอบคลุมระบบการนำวิธีการ มาปรับปรุงประสิทธิภาพของการศึกษาให้สูงขึ้นเทคโนโลยีทางการศึกษาครอบคลุมองค์ประกอบ 3 ประการ คือ วัสดุ อุปกรณ์ และวิธีการ


                             สภาเทคโนโลยีทางการศึกษานานาชาติได้ให้คำจำกัดความของ เทคโนโลยีทางการศึกษา ว่าเป็นการพัฒนาและประยุกต์ระบบเทคนิคและอุปกรณ์ ให้สามารถนำมาใช้ในสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม เพื่อสร้างเสริมกระบวนการเรียนรู้ของคนให้ดียิ่งขึ้น




                             นอกจากนี้เทคโนโลยีทางการศึกษา เป็นการขยายแนวคิดเกี่ยวกับโสตทัศนศึกษา ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เนื่องจากโสตทัศนศึกษาหมายถึง การศึกษาเกี่ยวกับการใช้ตาดูหูฟัง ดังนั้นอุปกรณ์ในสมัยก่อนมักเน้นการใช้ประสาทสัมผัส ด้านการฟังและการดูเป็นหลัก จึงใช้คำว่าโสตทัศนอุปกรณ์ เทคโนโลยีทางการศึกษา มีความหมายที่กว้างกว่า ซึ่งอาจจะพิจารณาจาก ความคิดรวบยอดของเทคโนโลยีได้เป็น 2 ประการ คือ



1. ความคิดรวบยอดทางวิทยาศาสตร์กายภาพ ตามความคิดรวบยอดนี้ เทคโนโลยีทางการศึกษาหมายถึง การประยุกต์วิทยาศาสตร์กายภาพ ในรูปของสิ่งประดิษฐ์ เช่น เครื่องฉายภาพยนตร์ โทรทัศน์ ฯลฯ มาใช้สำหรับการเรียนรู้ของนักเรียนเป็นส่วนใหญ่ การใช้เครื่องมือเหล่านี้ มักคำนึงถึงเฉพาะการควบคุมให้เครื่องทำงาน มักไม่คำนึงถึงจิตวิทยาการเรียนรู้ โดยเฉพาะเรื่องความแตกต่างระหว่างบุคคล และการเลือกสื่อให้ตรงกับเนื้อหาวิชา
ความหมายของเทคโนโลยีทางการศึกษา ตามความคิดรวบยอดนี้ ทำให้บทบาทของเทคโนโลยีทางการศึกษาแคบลงไป คือมีเพียงวัสดุ และอุปกรณ์เท่านั้น ไม่รวมวิธีการ หรือปฏิกิริยาสัมพันธ์อื่น ๆ เข้าไปด้วย ซึ่งตามความหมายนี้ก็คือ “โสตทัศนศึกษา” นั่นเอง
2. ความคิดรวบยอดทางพฤติกรรมศาสตร์ เป็นการนำวิธีการทางจิตวิทยา มนุษยวิทยา กระบวนการกลุ่ม ภาษา การสื่อความหมาย การบริหาร เครื่องยนต์กลไก การรับรู้มาใช้ควบคู่กับผลิตกรรมทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม เพื่อให้ผู้เรียน เปลี่ยนพฤติกรรมการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นมิใช่เพียงการใช้เครื่องมืออุปกรณ์เท่านั้น แต่รวมถึงวิธีการทางวิทยาศาสตร์เข้าไปด้วย มิใช่วัสดุ หรืออุปกรณ์ แต่เพียงอย่างเดียว

ความใฝ่ฝันกับการเรียนเทคโนโลยีการศึกษา


           ผมมีความฝัน 2 อย่างนะครับ

***อย่างแรกเลยก็คือ Chef  ผมชอบการทำอาหารตั้งแต่เด็กๆ ผม

รู้สึกว่าอาหารนั้นสำคัญเพราะทุกคนต้อง

การมันครับ และเป็นปัจจัย 4 ของการดำเนินชีวิตอีกด้วยครับ

***อย่างที่ 2 คือการถ่ายภาพบรรยายกาศต่างๆ เช่น ภูเขา น้ำตก ทุ่ง

หญ้า สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ



ผมจึงอยากเรียนคณะศึกษาศาตร์ สาขาเทคโนโลยีการศึกษาเพื่อทำ

ตามความฝันของผมและได้เรียนในสิ่ง

ที่ผมชอบและรักมัน ส่วน Chef นั้นผมก็หาเวลาว่างๆไปเรียนได้ โดย

ไม่เสียการเรียนในชั้นเรียนครับผม

ด้านอาชีพผมอาจจะนำเอาทั้ง 2 อย่างที่ผมชอบมาทำด้วยกันเลยคือ

" รายการทำอาหาร "

สามารถนำความรู้ที่ได้จากการเรียนในภาควิชาเทคโนโลยีการศึกษา

มาใช้ได้อย่างมีประสิทธ์ภาพ

ไม่ว่าจะเป็นการใช้ กล้องถ่ายรูป กล้องวีดีโอ และสื่อต่างๆทาง

อินเตอร์เน็ตอีกด้วยครับ

http://www.youtube.com/watch?v=rr6WMQMzdT8&feature=related

http://www.youtube.com/watch?v=64i87-OUs6s&feature=fvwrel